สถานที่ท่องเที่ยว


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ บุรจญ์เคาะลีฟะฮ์


1.หอคอยเคาะลีฟะฮ์

หรือหลายคนเรียก”หอคอยเคาะลีฟะฮ์”  หรือ หอคอยดูไบ เป็นตึกระฟ้า ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2552 ออกแบบโดยสถาปนิก เอเดรียน สมิธ สถาปนิกจากชิคาโก จากสำนักงานสถาปนิก เอสโอเอ็ม (SOM – สคิดมอร์ โอวิงส์ แอนด์ เมอร์ริลล์)มีความสูงถึง 546 เมตร เปลี่ยนชื่ออาคารจาก “บุรจญ์ดูไบ” เป็น “บุรจญ์เคาะลีฟะฮ์” เพื่อเป็นเกียรติแก่ชีกห์เคาะลีฟะฮ์ บิน ซายิด อัลนะฮ์ยาน เจ้าผู้ครองนครอาบูดาบี และประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ การตกแต่งภายในจะตกแต่งโดย จอร์โจ อาร์มานี โดยเป็นโรงแรมอาร์มานีสำหรับ 37 ชั้นล่าง โดยชั้น 45 ถึง 108 จะเป็น อพาร์ตเมนต์ โดยที่เหลือจะเป็นสำนักงาน และชั้นที่ 123 และ 124 จะเป็นจุดชมวิวของตึก ส่วนบนของตึกจะเป็นเสาอากาศสื่อสาร นอกจากนี้ชั้น 78 จะมีสระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่ ตึกนี้จะติดตั้งลิฟต์ที่เร็วที่สุดในโลก ที่ความเร็ว 18 ม/วินาที (65 ก.ม./ชม., 40 ไมล์/ชม.)



ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ dubai marina


2 Dubai marina

ดูไบมารีน่า (Dubai Marina) อีกหนึ่งย่านสำคัญของดูไบ เเมืองชายฝั่งที่ถูกมนุษย์สร้างขึ้นเป็นระยะทางกว่า 2 ไมล์ เพื่อให้ดูไบกลายเป็นเมืองที่มีคลองที่สร้างโดยมนุษย์และเต็มไปด้วยอสังหาริมทรัพย์หรูหรา สวนสาธารณะ บริเวณเดินเล่นและห้างสรรพสินค้า
ทั้งนี้ยังมีดูไบมารีมอลล์ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ที่มีร้านมากกว่า 120 ร้าน เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่รักการช็อปปิ้งอย่างมาก หรือหากคุณอยากล่องเรือทะเลในอ่าวเปอร์เซีย คุณก็สามารถทำได้ 


รูปภาพที่เกี่ยวข้อง


3.เที่ยวน้ำพุแห่งดูไบ Dubai Fountain

น้ำพุเต้นระบำได้นะรู้ยัง? >,< เต้นยังไง งงล่ะซี้ นี่คือ Dubai Fountain หรือ น้ำพุแห่งดูไบ ที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในโลกกก มีความยาวกว่า 270 เมตร หรือประมาณสนามฟุตบอล 2 สนามรวมกันค่า *0* นึกภาพตามแล้วร้องหูววววกันใช่ไหมม ยังค่ะ ยังไม่หมด ได้ใช้น้ำจำนวน 83,000 ลิตร พุ่งขึ้นไปบนอากาศสูงเท่ากับตึก 50 ชั้น!! และสามารถมองเห็นจากที่สูงไกลถึง 200 ไมล์อีกด้วยออกแบบโดยบริษัท WET Design จากสหรัฐอเมริกาค่ะ ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกับที่ออกแบบน้ำพุ Fountains of Bellagio ที่เมืองลาสเวกัสนั่นเอง น้ำพุที่นั่นว่าอลังการแล้ว น้ำพุดูไบนี้ขนาดใหญ่โตกว่าถึง 25% ใช้งบประมาณกว่า 220 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเท่ากับ 7.2 พันล้านบาทเลยทีเดียว โอ้ววววน้ำพุสุดอลังการนี้ตั้งอยู่ในทะเลสาบบุรจญ์คาลิฟา ใจกลางเมืองดูไบ รอบๆ เต็มไปด้วยตึกชื่อดังมากมาย และตึกเหล่านี้ก็เป็นสถานที่ดูโชว์น้ำพุยอดนิยมเลยล่ะค่า โดยเฉพาะหน้าห้างฯ คนจะมาดูเยอะมาก มีคนแอบกระซิบว่า สะพานระหว่างห้างฯ The Dubai Mall และ Souk Al Bahar เห็นชัดและมีคนน้อยกว่าด้วยแหละ งานนี้ก็ต้องหามุมดีๆ กันนะจ๊ะในการแสดงนี้จะใช้ไฟทั้งหมด 6,600 ดวง โปรเจคเตอร์สี 50 ตัว ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ พร้อมเปิดเพลงเป็นจังหวะ จนเหมือนน้ำพุนั้นเต้นระบำอยู่ เพลินมากๆ คนดูจะเต้นไปด้วยก็ไม่มีใครว่านะ ฮิฮิ การแสดงในแต่ละครั้งจะไม่เหมือนกันนะคะ แต่รับรองว่าตื่นตาตื่นใจอย่างแน่นอน!เริ่มชมได้ตั้งแต่ 6 โมงเย็น ถึงเที่ยงคืน โดยจะจะเริ่มทุกๆ ครึ่งชั่วโมง รอบละประมาณ 5 นาที มาวันไหนก็ได้ดู เพราะมีการแสดงทุกวัน แถมไม่เสียค่าใช้จ่ายด้วยจ้า เริ่ดเฟร่ออออก่อนน้ำพุจะเริ่มต้น คนก็มายืนรอกันเต็มไปหมด


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ หมู่เกาะต้นปาล์ม

4.หมู่เกาะต้นปาล์ม The Palm Islands

                หมู่เกาะต้นปาล์ม หรือ The Palm Islands นั้นเป็นโครงการก่อสร้างเกาะจำลองบริเวณอ่าวเปอร์เซีย เมืองดูไบ ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์โดยแต่ละเกาะจะมีลักษณะรูปร่างเหมือนต้นปาล์ม และล้อมรอบด้วยเสี้ยววงกลม โดยพื้นที่จะมีการจัดเป็นที่อยู่อาศัย และรีสอร์ท การพัฒนานี้เป็นส่วนหนึ่งในโครงการพัฒนาการท่องเที่ยวของประเทศดูไบ และในโครงการจะมีการสร้างทั้งหมด 3 เกาะ ได้แก่ ปาล์ม Jumeirah, ปาล์ม Deira และ ปาล์ม Jebel Ali                แนวคิดการถมทะเลเป็นเกาะเกิดจากพระราชดำริของ เชค โมฮัมเหม็ด บิน ราชิต อัล มาคทูม ( Shiekh Mohammed Bin Rashid Al Maktoum) เจ้าผู้ปกครองเมืองดูไบ นายกรัฐมนตรี และรองประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐอาหรับเอมิเรตส์  พระองค์ทรงต้องการพัฒนาดูไบให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของตะวันออกกลาง เริ่มจากการถมทะเลเพื่อสร้างเกาะเป็นรูปต้นปาล์ม ลักษณะและขนาดแตกต่างกัน  มีส่วนโค้งล้อมรอบปาล์ม เป็นจุดศูนย์กลางของเกาะ  มีความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร  เป็นที่ตั้งของโรงแรม  ที่พักอาศัย  และร้านค้าต่างๆ  เชื่อมต่อกับพื้นดินของดูไบ ผ่านสะพานและรถไฟลอยฟ้ายาวประมาณ  5.4  กิโลเมตร สามารถรับส่งผู้โดยสารสูงสุดได้ประมาณ 2000-3000 คนต่อเที่ยว ส่วนที่ 2 คือส่วนของก้านใบ  17 ก้าน  เป็นที่พักอาศัย ส่วนสุดท้ายเป็นส่วนวงโค้งรอบต้นปาล์มยาว 11 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของโรงแรมและรีสอร์ทระดับ 5 ดาว   ที่พักอาศัยและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจซึ่งปัจจุบันมีผู้อาศัยบ้างแล้ว การสร้างเกาะทั้ง 3 แห่งนี้  ทำให้ดูไบมีพื้นที่ชายหาดเพิ่มมากขึ้นถึง  520 ตารางกิโลเมตร


5.พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ DUBAI AQUARIUM & UNDERWATER ZOO

เที่ยวพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Dubai Aquarium & Underwater Zoo พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกกกกกก (ใส่เสียงเอคโค่) อยู่ในห้าง Dubai Mall ที่เป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก และได้รับการบันทึกในกินเนสบุ๊คว่าเป็นตู้กระจกอะคริลิกขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วยค่า นี่ดูไบจะยิ่งใหญ่อลังการไปหมดเลยใช่มั้ยเนี่ย 5555 เพราะที่นี่มีอุโมงค์ให้เดินลอดใต้ท้องกระจก เปรียบเสมือนโรงเรียนขนาดใหญ่ของปลาทะเล ปะการังเทียมขนาดใหญ่ที่เหมือนของจริงมาก สามารถมองเห็นสัตว์น้ำใต้ทะเลกว่า 33,000 ชนิด แบบพาโนรามาชัดๆ เต็มตากันไปเล้ยย ราวกับว่าได้เป็นนางเงือกว่ายน้ำอยู่ใต้ทะเล ฮิฮิและยังมีนกเพนกวิน แมวน้ำ ปลากระเบน ปิรันยา แมลงต่างๆ สัตว์เลื้อยคลาน และราชาจระเข้ที่ตัวใหญ่มว้าก อายุ 40 ปี ยาวกว่า 5 เมตร น้ำหนักถึง 750 กิโลกรัม! ว้าวว สมกับเป็นราชาจริงๆ *0*การโชว์ให้อาหารปลาจากมือนักประดาน้ำ ท่ามกลางฝูงปลาหลายหมื่นตัว รวมทั้งฉลามด้วย! กรี๊ดด ตื่นเต้น มีการแสดงความสามารถของสัตว์ ทุกๆ ชั่วโมง ใครสงสัยอะไรจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้ความรู้และตอบคำถามของเราอยู่ทั่วพิพิธภัณฑ์เลยค่า ถามอะไร ตอบได้ อับดุลเอ้ย 555เรียกได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ยิ่งใหญ่อลังการสมชื่อจริงๆ เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี ห้ามพลาดนะจ๊าา


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น